กระบี่เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก

สัญลักษณ์ประจำจังหวัด​[แก้] ต้นทุ้งฟ้าอักษรย่อ : กบ คำขวัญประจำจังหวัด : กระบี่เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก ตราประจำจังหวัด : รูปกระบี่ไขว้ เบื้องหลังมีภูเขาและทะเล กระบี่ไขว้ หมายถึง อาวุธโบราณซึ่งมีผู้ค้นพบในท้องที่จังหวัด จำนวน 2 เล่ม ภูเขา หมายถึง เขาพนมเบญจาซึ่งเป็นภูเขาสูงสุดของกระบี่ ซับซ้อนกันถึง 5 ยอด จึงเรียกว่า พนมเบญจา มีเมฆปกคลุมตลอดเวลา และกั้นเขตแดนกับจังหวัดอื่น ส่วนทะเล หมายถึง อาณาเขตอีกด้านหนึ่งของกระบี่ซึ่งติดกับฝั่งทะเลอันดามันหรือมหาสมุทรอินเดีย ต้นไม้ประจำจังหวัด : ต้นทุ้งฟ้า (Alstonia macrophylla) ดอกไม้ประจำจังหวัด : ดอกทุ้งฟ้า สัตว์น้ำประจำจังหวัด : หอยชักตีนหรือหอยสังข์ตีนเดียว (Laevistrombus canarium) ที่ตั้ง​[แก้] เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 814 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) มีเนื้อที่ 4,708 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยภูเขา ที่ดอน ที่ราบ หมู่เกาะน้อยใหญ่ กว่า 154 เกาะ อุดมไปด้วยป่าชายเลน ตัวเมืองกระบี่มีแม่น้ำ ยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ไหลผ่านลงสู่ทะเลอันดามัน ที่ตำบลปากน้ำ นอกจากนี้ยังมีคลองปกาสัย คลองกระบี่ใหญ่ และคลองกระบี่น้อย มีต้นกำเนิดจากยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกระบี่ คือ เขาพนมเบญจา สภาพภูมิประเทศ​[แก้] สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปของจังหวัดกระบี่ ทางตอนเหนือประกอบด้วยเทือกเขายาวทอดตัวไปในแนวเหนือใต้ สลับกับสภาพพื้นที่แบบลูกคลื่นลอนลาด และลอนชัน มีที่ราบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตก บริเวณทางใต้ มีสภาพภูมิอากาศเป็นภูเขากระจัดกระจาย สลับกับพื้นที่แบบลูกคลื่น ส่วนบริเวณทางตอนใต้สุดและตะวันตกเฉียงใต้ มีสภาพพื้นที่เป็นแบบลูกคลื่นลอนลาดจนถึงค่อนข้างเรียบ และมีภูเขาสูงๆต่ำๆ สลับกันไป บริเวณด้านตะวันตกมีลักษณะ เป็นชายฝั่งติดกับทะเลอันดามันยาวประมาณ 160 กิโลเมตร. ประกอบด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ประมาณ 130 เกาะ แต่เป็นเกาะที่มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 13 เกาะ เกาะที่สำคัญได้แก่ เกาะลันตา เป็นที่ตั้งของอำเภอเกาะลันตา และเกาะพีพี ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอเมือง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามติดอันดับของโลก บริเวณตัวเมืองมีแม่น้ำกระบี่ ยาวประมาณ 5 กิโลเมตร. ไหลผ่านลงสู่ทะเลอันดามัน ที่ ตำบลปากน้ำ นอกจากนี้ยังมีคลองปกาสัย คลองกระบี่ใหญ่ และคลองกระบี่น้อย ซึ่งมี่ต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาพนมเบญจา เทือกเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดกระบี่ กระบี่ 10 พิกัด เที่ยวแบบฟิน ๆ ที่กระบี่ มากี่ทีก็ต้องไป nichanun, 2 years ago  0  2 min read  37520 เริ่มเข้าปลายปี มันคือดี เพราะนอกจากจะเริ่มมีวันหยุดยาวมาเรื่อย ๆ แล้ว สวรรค์ของคนรักทะเล อย่างท้องทะเลใต้ก็เริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมกันแล้ว ก่อนจะสิ้นปี ก็ต้องออกไปรับวิตามิน SEA ให้ดีต่อใจ แต่จะมีที่ไหนฟินไปกว่า “กระบี่” ที่มีครบทั้งภูเขา น้ำตก เกาะ หาด ป่าชายเลน บ่อน้ำร้อน ฯลฯ แถมด้วยโลกใต้ทะเลแบบน้ำตื้น น้ำลึกก็สวยติดอันดับโลกเหมือนกัน แบบนี้แล้วต้องรีบไปเที่ยวแบบฟิน ๆ กับ 10 พิกัดที่เที่ยวกระบี่มากี่ทีก็ต้องไป ส่วน Perfectionist ทั้งหลาย ที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสรรพทุกกระบวนท่าก่อน ก็มองหาที่พักล่วงหน้าชิลล์ย ๆ กับ Traveloka ไว้ก่อนเลย ค้นหาและจองที่พักในกระบี่ราคาพิเศษ กับ Traveloka

เขาขนาบน้ำ อำเภอเมืองกระบี่ มากระบี่ทั้งทีก็ต้อง Check-In กับสัญลักษณ์ประจำเมืองกระบี่ก่อนเลย ที่ “ เขาขนาบน้ำ ” เขาสองลูกสูงประมาณ 100 เมตรที่วางตัวขนาบข้างแม่น้ำกระบี่ ที่นอกจะเป็น Landmark ประจำตัวเมืองกระบี่แล้ว บริเวณรอบ ๆ ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย อาทิ ป่าชายเลน และถ้ำหินงอกหินย้อยที่สวยงามแปลกตา อ่าวนาง เวิ้งอ่าวที่ทอดยาวนับกิโล จรดพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา ศูนย์กลางท่าเรือหางยาวสำหรับท่องเที่ยว จึงนับได้ว่าเป็น Hub ของการท่องเที่ยวเกาะต่าง ๆ ในกระบี่เลยก็ว่าได้ ด้วยภูมิประเทศของเวิ้งอ่าวกว้างอันเป็นทำเลที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเป็นท่าเทียบเรือ แถมยังเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบบริเวณหาด ทะเลแหวก สันทรายสีขาวกลางทะเลลึก ดูแปลกตา น่าอัศจรรย์ ที่เป็นแนวทางเดินเชื่อมระหว่างเกาะ 3 เกาะ คือ เกาะทับ เกาะหม้อ และเกาะไก่ เกิดขึ้นเฉพาะในช่วงเวลาน้ำลดต่ำสุด ซึ่งมีเพียงไม่กี่วันในหนึ่งเดือน อีกหนึ่ง Unseen Thailand ที่เกิดจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ทั้งสวยงามน่าค้นหา และหาดูได้ยาก (เพราะไม่ได้มีกันทุกวันนะ) หมู่เกาะพีพี อีกหนึ่งไฮไลท์ยอดฮิตของกระบี่มาช้านาน จนได้รับสมญานามว่า “ อาณาจักรแห่งบุพผาใต้สมุทร ” ถือเป็นเครื่องการันตีความสวยงาม และความอุดมสมบูรณ์ของโลกใต้ท้องทะเลของหมู่เกาะพีพี ทั้งปะการัง ดอกไม้ทะเล และเหล่าฝูงปลาน้อยใหญ่ หมู่เกาะพีพี ประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ คือ เกาะพีพีเล และเกาะพีพีดอน และเกาะขนาดเล็กที่อยู่ข้างเคียงกัน อย่างเกาะยูง และเกาะไม้ไผ่ แอบบอกนิดนึงว่าช่วงเวลาที่จะมาเที่ยวหมู่เกาะพีพีได้ คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายนเท่านั้นนะ เกาะห้อง เกาะที่ใหญ่ที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี มีลักษณะเหมือนเป็นห้องโถงกว้างกลางทะเล ซึ่งมีเขาหินปูนสูงชันกับต้นไม้อันเขียวขจี โอบล้อมรอบผืนน้ำทะเลใส และหาดทรายขาวตรงกลาง มีทางเข้า-ออกไม่ใหญ่มากเพียงทางเดียว ในบรรยากาศแสนสงบ และโรแมนติก เหมาะแก่การมาพักผ่อนสัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติเป็นที่สุด อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา อุทยานแห่งชาติทางทะเล อันประกอบด้วยกลุ่มเกาะต่าง ๆ ในทะเลอันดามัน ได้แก่ เกาะรอก เกาะไหง เกาะห้า และกลุ่มเกาะลันตา ที่มีชื่อเสียงในความสวยงามทั้งทัศนียภาพเหนือน้ำทะเล และใต้ท้องทะเล ทั้งยังเป็นจุดดำน้ำดูปะการัง และสัตว์โลกใต้ทะเลน้ำตื้น และน้ำลึกอันดับต้น ๆ ของกระบี่ หาดไร่เลย์ ทิวผาหินปูนสูงชันที่ตั้งตระหง่านท้าแดด ท้าลมท่ามกลางท้องทะเลกว้าง คือเอกลักษณ์สุดโดดเด่นของ “ หาดไร่เลย์ ” สวรรค์สุดฟินของนักปีนผา สาย Adventure ทั้งหลายจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากชื่อเสียงเรื่องการปีนผาที่เป็นที่นิยมแล้ว การชมทัศนียภาพพระอาทิตย์ตกดินที่หาดไร่เลย์ก็สวยงามน่าหลงใหลไม่แพ้กัน สระมรกต สระน้ำใสสีสวยกลางผืนป่า Landmark ยอดฮิตสุด Unseen ของกระบี่ กับธารน้ำพุร้อน สีมรกต – เขียวอมฟ้าใสปิ๊งจนมองเห็นพื้นแอ่งน้ำด้านล่าง รากไม้ และฝูงปลาที่แหวกว่ายชิลล์ ๆ อยู่ในสายน้ำอุ่น ๆ โดยตัวน้ำพุร้อนแบ่งออกเป็น 3 สระด้วยกัน คือ สระแก้ว สระมรกต และสระน้ำผุด แต่ละสระก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง แต่ที่เหมือนกันคือน้ำอุ่นใสสีมรกต น้ำตกร้อนคลองท่อม น้ำร้อนใต้ผืนพิภพที่ผุดซึมขึ้นมาบนผิวดินกลางป่าละเมาะ ในเขตอำเภอคลองท่อม ที่ค่อย ๆ ไหลมารวมกันตามความลาดเอียงของพื้นที่จนกลายเป็นน้ำตกขนาดเล็ก และขนาดกลาง อันเกิดจากความต่างระดับของพื้นที่ ๆ ต่างกันตลอดสายธารน้ำร้อนที่ไหลลงสู่คลองท่อม เขาหงอนนาค เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 3.7 กิโลเมตร ที่มีทีเด็ดอยู่ที่ปลายทาง กับจุดชมวิวมุมสูงจากยอดเขาในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี ที่สามารถมองเห็นวิวได้ไกลสุดสายตาตั้งแต่อ่าวนาง เกาะห้อง และทะเลแหวก ไปจนจรดอ่าวท่าเลน แถมยังมี “น้ำตานาค” บ่อน้ำขนาดเล็ก ที่มีน้ำใสตลอดปี เชื่อกันว่าถ้าได้ดื่มน้ำจากบ่อน้ำแหล่งนี้จะเป็นสิริมงคล และสมปรารถนา แบบนี้มันก็น่าไปทดสอบความฟิต – พิชิตระยะทางกันดูสักตั้ง ที่พักแนะนำในกระบี่ 1. The Chill @ Krabi •ราคาเริ่มต้น 678 บาท โรงแรมน้องใหม่ขนาดเล็กสุดชิคในตัวเมืองกระบี่ ออกแบบมาเอาใจวัยรุ่นโดยเฉพาะ ตกแต่งในสไตล์ Zen Modern – Loft แบบ Minimalist อย่างลงตัว ฉบับจิ๋วแต่แจ๋ว ที่พร้อมสรรพเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก และทำเลที่ตั้งก็แสนสะดวกไม่ทั้งเดินทางเพื่อธุรกิจ และท่องเที่ยว จองที่พัก The Chill @ Krabi กับ Traveloka คลิก 2. รายาวดี รีสอร์ท •ราคาเริ่มต้น 14,545 บาท รีสอร์ทระดับ 5 ดาวท่ามกลางธรรมชาติสุดปัง วิวสวยเว่อร์วังอลังการของแหลมพระนาง โอบล้อมด้วยเขาหินปูนสูงชัน และบรรยากาศอันร่มรื่นย์ ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงในเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบ Tropical Thai – Bali เลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติเป็นหลัก โดย Highlight เด็ดที่หยิบเอาจุดเด่นของทำเลที่ตั้งของที่นี่มาเป็นกิมมิค คือ ห้องอาหารภายในถ้ำหินปูนข้างหาดทราย คำนำ รายงานวิเคราะห์สถานการณ์การจัดทาข้อมูลเชิงพื้นที่จังหวัดเป็นรายงาน สถานการณ์ที่สานักงานสถิติจังหวัดกระบี่ได้จัดทาขึ้น เพื่อรวบรวมประมวลข้อมูลที่ น่าสนใจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด 4 ปี และวิเคราะห์ข้อมูล สถานการณ์ แนวโน้มของยุทธศาสตร์ตามแผนพัฒนาจังหวัดดังกล่าว ด้วยการนาข้อมูล สารสนเทศมาประกอบการกาหนดผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพ (Product Champion) และ ห่วงโซ่คุณ ค่า (Value Chain) และการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างประเด็น ยุทธศาสตร์กับตัวแปรที่สาคัญ ที่จะนาไปสู่การกาหนดปัจจัยสู่ความสาเร็จที่เหมาะสม ด้วยข้อมูลสารสนเทศตามประเด็นต่างๆ สานักงานสถิติจังหวัดกระบี่ ได้ดาเนินการวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์แนวโน้ม ของยุทธศาสตร์ตามแผนพัฒนาจังหวัดใน 3 ประเด็น คือ ยุทธศาสตร์ที่ 1 ยกระดับ คุณภาพการท่องเที่ยวทางทะเลเชิงอนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสุขภาพ สู่ระดับนานาชาติ ยุทธศาสตร์ที่ 2 สร้างความมั่นคง การผลิตภาคเกษตรอุตสาหกรรม ประมง ปศุสัตว์ และอาหาร และยุทธศาสตร์ที่ 3 ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนสู่สังคม น่าอยู่ โอกาสนี้ สานักงานสถิติจังหวัดกระบี่ ขอขอบคุณคณะกรรมการสถิติระดับจังหวัด และหน่วยงานต่างๆ ที่ได้อนุเคราะห์ข้อมูล ซึ่งเป็นผลทาให้การวิเคราะห์ข้อมูล สถานการณ์ แนวโน้มของยุทธศาสตร์ตามแผนพัฒนาจังหวัดสาเร็จลุล่วงไปด้วยดี และ หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริหารในพื้นที่ และผู้สนใจ 1 รายงานวิเคราะห์สถานการณ์การจัดทาข้อมูลเชิงพื้นที่ จังหวัดกระบี่ ตามแผนพัฒ นาจังหวัดกระบี่ ปี พ.ศ. 2558-2561 ได้กาหนดวิสัยทัศน์ เพื่อกาหนดทิศทางการพัฒนา ดังนี้ วิสัยทัศน์ : เมืองท่องเที่ยวคุณภาพระดับนานาชาติ แหล่งเกษตรอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน สังคมน่าอยู่ ประเด็นยุทธศาสตร์จังหวัด : ยุทธศาสตร์ที่ 1 ยกระดับ คุณ ภ าพ การท่อ งเที่ยวท างท ะเลเชิงอนุรัก ษ์ ศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสุขภาพ สู่ระดับนานาชาติ ยุทธศาสตร์ที่ 2 สร้างความมั่นคง การผลิตภาคเกษตรอุตสาหกรรม ประมง ปศุสัตว์ และอาหาร ยุทธศาสตร์ที่ 3 ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนสู่สังคมน่าอยู่ เป้าประสงค์ : 1. กระบี่เมืองท่องเที่ยวคุณภาพ ที่ยั่งยืนมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ 2. เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ให้มีคุณภาพและเพียงพอ บุคลากร ภาคเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรได้รับการพัฒนาศักยภาพเพื่อรองรับ การเข้าสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 3. ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความมั่นคงทางสังคม

ภาพรวมของผู้นำที่มีประสิทธิภาพไม่ว่าจะ เป็นองค์กรภาคเอกชนหรือภาครัฐ อย่างไรก็ตาม สำหรับองค์กรภาครัฐอาจมีข้อแตกต่างไปจากองค์กร ธุรกิจทั่วไปบ้าง เพราะองค์กรภาครัฐไม่ได้มีจุดประสงค์หลักในการแสวงหา กำไร แต่ดำเนินกิจการเพื่อสนองนโยบายหลักของภาครัฐ หรือภาคสาธารณะ อื่นๆ ผู้บริหารองค์กรภาครัฐ องค์กรภาครัฐมีทั้งที่เป็นหน่วยงานประเภทกระทรวง ทบวง กรม และ หน่วยงานที่เป็นรัฐวิสาหกิจ และอาจมีหลากหลายขนาดแตกต่างกัน แม้ส่วนใหญ่จะมีขนาดองค์กรใหญ่โตตามกาลเวลาและอายุขัยขององค์กร เพราะบุคลากรในภาครัฐมักทำงานผูกพันอยู่กับองค์กรเดิมเป็นเวลายาวนาน ในขณะที่องค์กรต้องมีการนำคนรุ่นใหม่จากภายนอกเข้ามาเสริมเป็นระยะ เพื่อทดแทนบุคลากรเดิมที่เกษียณหรือให้มีส่วนผสมขององค์กรที่เอื้อตาม กาลเวลาที่เปลี่ยนไป องค์กรภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวง ทบวง กรม หรือรัฐวิสาหกิจ ต่างๆ ถือเป็นองค์กรที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ของประเทศ ผู้บริหารองค์กรภาครัฐ นอกจากจะต้องมีคุณสมบัติของ ผู้บริหารองค์กรทั่วไปแล้ว ยังต้องมีคุณสมบัติเพิ่มเติมอื่นๆ ที่ผู้บริหาร องค์กรเอกชนอาจขาดไป เช่น ความสามารถในการดำรงอยู่ร่วมกับกลุ่ม คนรุ่นเดิมที่เติบโตมากับองค์กรซึ่งเป็นผู้มีวัยวุฒิและวุฒิภาวะสูงกว่า คนรุ่นใหม่โดยทั่วไป และอาจเป็นหัวหน้าสายงานซึ่งครอบคลุมการปฏิบัติ งานหลากหลายในองค์กร คนสูงอายุในองค์กรเมื่อได้ทุ่มเทให้องค์กรมาถึง ระดับหนึ่งแล้วอาจอ่อนล้า ประสิทธิภาพอาจถดถอย และรอคอยเวลา ที่จะเกษียณอายุ เว้นแต่จะได้ก้าวหน้าไปสู่ตำแหน่งผู้บริหารระดับที่ตนเอง ต้องการ ข้อนี้แตกต่างจากองค์กรภาคเอกชนที่ไม่มีกำหนดเวลาการเกษียณ อายุตายตัว เราจึงอาจเห็นบุคลากรหรือผู้บริหารภาครัฐที่มากความสามารถ ก้าวข้ามไปทำงานในภาคเอกชนเมื่อเกษียณอายุจากหน่วยงานภาครัฐ แล้ว โดยระดับความสามารถไม่ได้ถดถอยลงตามอายุหรือตามเวลางาน 10 ผู้บริหารองค์กรภาครัฐ ผู้บริหารซึ่งเป็นผู้นำองค์กรภาครัฐ มีความรับผิดชอบสูงกว่าผู้บริหาร ซึ่งเป็นผู้นำองค์กรภาคเอกชน เพราะแหล่งเงินทุนขององค์กรภาครัฐมา จากเงินภาษีอากรของประชาชนโดยตรงทั้งหมดหรือเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้ มาจากการระดมทุนในตลาดเงิน ตลาดทุนเช่นหน่วยงานภาคเอกชน ดังนั้น ผู้บริหารองค์กรภาครัฐจึงต้องบริหารองค์กรโดยมีจิตสำนึกเสมอว่า เงินทุนนั้นมาจากภาษีอากรของประชาชน ต้องมีความรับผิดชอบสูงกว่า ผู้บริหารองค์กรภาคเอกชน และถูกตรวจสอบได้ในระดับที่เข้มข้นกว่า ผู้บริหารที่เป็นผู้นำองค์กรภาคเอกชน ผู้บริหารองค์กรภาครัฐต้องสามารถประยุกต์การบริหารงานสมัยใหม่ ที่อิงการใช้ข้อมูลสารสนเทศและความไร้พรมแดนของข้อมูลและการค้า เพื่อให้เกิดความเป็นเลิศในเชิงคุณภาพของงาน และอาจประสบปัญหา มากกว่าผู้บริหารในองค์กรภาคเอกชน เพราะในระบบราชการหรือใน ระบบรัฐวิสาหกิจนั้น มักมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่หวาดวิตกต่อการถูกทดแทน ที่ด้วยเครื่องมือทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ หวั่นเกรงว่าจะตกงานหากมี การใช้เทคโนโลยีมากเกินไปหรือเร็วเกินไป ดังนั้น การทำความเข้าใจ กับคนกลุ่มนี้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ ขณะเดียวกัน องค์กรภาครัฐมักถูกมองว่าอุ้ยอ้ายเชื่องช้า เนื่องจาก ระบบ ระเบียบ วิธีการปฏิบัติ หรือวิธีการทางเอกสารมีมากมาย ทำให้ ต้องมีกระบวนการทางเอกสารและขั้นตอนค่อนข้างมาก จนบางครั้ง ไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามกำหนดนัดหมาย หรือไม่ทันกำหนดเวลา ของงาน ผู้บริหารองค์กรภาครัฐ11 หลักเศรษฐศาสตร์ในอดีตสอนเราเรื่อง Economy of Scale หรือการ ประหยัดจากขนาดที่ใหญ่ขึ้น แต่เศรษฐศาสตร์สมัยใหม่ได้เพิ่มแนวคิดใหม่ ของ Economy of Speed หรือการประหยัดจากความเร็วเข้ามาเสริม เราจึงเห็นการแข่งขันในภาคธุรกิจปัจจุบันที่มุ่งตอบสนองกลุ่มลูกค้า เป้าหมายก่อนที่คนอื่นจะเข้าถึง และสาธารณชนทั่วไปเริ่มรับรู้และเข้าถึง เทคโนโลยีสารสนเทศได้มากขึ้นทั่วประเทศในราคาที่ถูกลงเรื่อยๆ ดังนั้น คนส่วนใหญ่ที่เป็นลูกค้าซึ่งรับบริการจากองค์กรภาครัฐใน ปัจจุบัน เมื่อมองจากภายนอก จึงคาดหวังคุณภาพและความรวดเร็วของ บริการในระดับเดียวกันกับคุณภาพและความรวดเร็วจากองค์กรธุรกิจ เอกชนด้วย หากองค์กรภาครัฐไม่สามารถปรับตัวให้สามารถดำเนินการ ได้รวดเร็วเหมือนภาคเอกชน จะทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้อยกว่าเมื่อเทียบกับองค์กรประเภทเดียวกันในภาคเอกชน ในกรณีเช่นนี้ องค์กรอาจจำเป็นต้องนำเข้าหรือ Import ผู้บริหารระดับสูงจากภาคเอกชน เข้ามาผสม เพื่อให้องค์กรมีการปรับแนวคิดการทำงานให้เกิดความรวดเร็ว เพิ่มขึ้น ผู้บริหารจากภายนอกที่เข้าใจสภาพหรือรับรู้ปัญหาภายในขององค์กร นั้นๆ ได้ดี หรือผู้บริหารภายในองค์กรที่มีวิสัยทัศน์มองเห็นสภาพการแข่ง ขันภายนอกได้เยี่ยม ประเภท Inside - Out and Outside - In จึงน่าจะ เป็นคุณสมบัติของผู้บริหารที่พึงประสงค์สำหรับองค์กรที่ต้องการตอบรับ การเปลี่ยนแปลงโดยไม่กระทบองคาพยพภายในองค์กรมากเกินไป 12 ผู้บริหารองค์กรภาครัฐ การประยุกต์การบริหารงานองค์กรภาครัฐสมัยใหม่ ให้สอดคล้อง กับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปจึงเป็นสิ่งจำเป็น ผู้บริหารองค์กรภาครัฐต้อง กล้าหาญในการดำเนินการเชิงกลยุทธ์เพื่อปรับปรุงระบบงาน หรือรื้อปรับ ระบบงาน หรือปรับปรุงเนื้องาน โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ในเชิงคุณภาพ นั่นคือ ผู้บริหารต้องมีแนวคิดใหม่ๆ ที่อาจออกนอกกรอบความคิดเดิมๆ หรืออกจากกรอบการทำงานแบบเดิม (Think outside the box.) รวมทั้ง การประยุกต์การบริหารงานให้ทันกับบุคลากรเลือดใหม่ที่เริ่มเข้ามา ในองค์กร ในบางส่วนของการบริหารงานภาครัฐ ผู้บริหารอาจใช้วิธีการของภาค ธุรกิจเอกชนเข้ามาเสริมในบางส่วน ซึ่งอาจมีหลากหลายวิธี เช่น ระบบ การจ้างที่ปรึกษาจากภายนอก (Outside Advisor) การจัดหาจากภายนอก (Outsourcing) การสร้างพันธมิตรระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (Public-Private Partnership) หรือการจัดจ้างเพื่อให้เอกชนเข้ามาร่วม ดำเนินการในบางส่วนบางขั้นตอนของเนื้องาน (Contract Out) ผู้บริหารองค์กรภาครัฐมีความรับผิดชอบต่อองค์กรและสาธารณชนสูง ในขณะเดียวกันก็มีความเปราะบางในกระบวนการบริหาร เพราะสังคมไทย ในอดีตที่ผ่านมา มีเนื้อหาของการตอบแทนบุญคุณ หรือการตอบสนอง ต่อผู้มีอำนาจและผู้หลักผู้ใหญ่ในสังคมอยู่เสมอ แม้ในกรณีที่ผู้บริหารเอง ไม่ได้มีเจตนาจะเล่นพรรคเล่นพวกหรือใช้ระบบเห็นแก่ญาติ (Nepotism) ก็ตาม ทำให้กระบวนการจัดหาบุคลากรเพื่อมาเสริมศักยภาพขององค์กร ไม่อาจดำเนินการได้อย่างโปร่งใสโดยแท้จริง แต่ทั้งนี้ ในบางกรณี การใช้ บุคลากรที่ได้รับการแนะนำมาโดยคนใกล้ชิดหรือผู้หลักผู้ใหญ่ที่รู้จักก็อาจ ทำให้ได้บุคคลที่ไว้วางใจได้และทราบที่มาที่ไปได้เช่นกัน ผู้บริหารองค์กรภาครัฐ13 ผู้บริหารองค์กรภาครัฐ จึงพึงสร้างเกราะคุ้มกันตนให้เป็นคนดี ที่สมบูรณ์ให้ได้มากที่สุด นำหลักปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” มาประยุกต์ ใช้กับการบริหารให้มากที่สุด และผู้บริหารองค์กรภาครัฐพึงน้อมนำธรรมะ 10 ประการของผู้เป็นราชา2 มาปฏิบัติให้ได้มากที่สุดด้วย ได้แก่ 1. การเสียสละ การให้น้ำใจแก่ผู้อื่น 2. การมีความประพฤติที่ดีงาม 3. การเสียสละความสุขส่วนตน เพื่อส่วนรวม 4. การดำรงความซื่อสัตย์สุจริตในฐานะผู้ปกครอง 5. การมีอัธยาศัยอ่อนโยน เคารพในเหตุผล มีสัมมาคารวะ 6. การมีความอุตสาหะในการปฏิบัติงาน ปราศจากความเกียจคร้าน 7. การไม่โกรธ ไม่มุ่งร้ายผู้อื่น แม้จะลงโทษผู้ทำผิดก็ทำตามเหตุผล 8. การไม่เบียดเบียนหรือไม่ก่อทุกข์แก่ผู้อื่น 9. การมีความอดทนต่อสิ่งทั้งปวง 10. การถือความถูกต้องเที่ยงธรรมเป็นหลัก ไม่เอนเอียงหวั่นไหว การสร้างเกราะคุ้มกันของผู้บริหารองค์กรภาครัฐนั้น นอกจากจะต้อง ยึดหลักธรรมดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังต้องฝึกจิตมิให้หวั่นไหวไปกับลาภยศ สักการะที่มาพร้อมกับตำแหน่ง ดังคำกล่าวที่ว่า “สวมหัวโขน” เมื่อมี หัวโขนก็จะมีผู้คนมาให้ความเคารพนับถือมากมาย เมื่อ “ถอดหัวโขน” ออก จึงจะทราบว่าความเคารพนับถือนั้นเป็นไปโดยจริงใจเพียงใด 2ดัดแปลงจากข้อมูล “ทศพิธราชธรรม” ใน Wikipedia วิกีพีเดีย สารานุกรมเสรี 14 ผู้บริหารองค์กรภาครัฐ การสร้างเกราะคุ้มกันจึงไม่ใช่สิ่งที่ทำได้โดยเพียงแค่การแสดงโล่รางวัล แสดงใบประกาศเกียรติคุณ หรือแสดงตนว่าได้ผ่านการอบรมหลักสูตร ความรู้ด้านบรรษัทภิบาล (Corporate Good Governance) มาแล้วเท่านั้น เพราะสิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่เครื่องพิสูจน์ความซื่อสัตย์สุจริตที่แท้จริงเสมอไป ผู้บริหารองค์ภาครัฐต้องสร้างเกราะคุ้มกัน โดยการวางกฎ ระเบียบ วิธีการปฏิบัติงานที่ชัดเจน มีขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่ชัดเจน มีระบบ การตรวจสอบซึ่งกันและกันที่ชัดเจน จนทำให้ไม่สามารถฝ่าฝืนได้โดยง่าย และสร้างระบบตรวจสอบย้อนหลังได้เพื่อความโปร่งใส การบริหารจัดการองค์กรภาครัฐที่มีลักษณะสลับซับซ้อน ต้องมี “ลูกล่อลูกชน” หรือศิลปะในการจัดการซึ่งเป็นมากกว่าศาสตร์ เพราะเป็น สิ่งไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ไม่มีขนาดหรือน้ำหนักความเข้มในการดำเนินการ ตายตัว ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อม ผู้บริหารองค์กรภาครัฐต้องมีความอดทนกับข้อครหาที่ไม่เป็นจริง หรือไม่เป็นธรรม เช่น บัตรสนเท่ห์ ใบปลิว ฯลฯ ซึ่งมักมีอยู่มากมาย ในหลายหน่วยงาน ผู้บริหารองค์กรต้องมีความเป็นธรรมในการพิจารณา ข้อเท็จจริง ฟังหูไว้หู ไม่เชื่อในทันทีแต่ต้องมีการตรวจสอบข้อมูลก่อน และ แม้ในการตรวจสอบข้อมูลก็ต้องมั่นใจว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้องที่ไม่เอนเอียง และแม้ข้อกล่าวหาบางส่วนอาจเป็นจริงก็ต้องพิจารณาเหตุผลซึ่งเป็นที่มา เช่น พนักงานร้องเรียนเรื่องผู้บังคับบัญชาเนื่องจากได้รับการประเมินผล การทำงานในระดับที่ไม่พึงพอใจ